ญี่ปุ่น 11วัน8เมือง ตอนที่ 2 Universal Studio Japan ภาค ユニバーサル・スタジオ・ジャパン

ญี่ปุ่น 11วัน8เมือง ตอนที่ 2 Universal Studio Japan ภาค2 ユニバーサル・スタジオ・ジャパン

มาแระจ้า USJ ภาคต่อ เริ่มกันเลยนะ

การมาเที่ยวที่ USJ ควรต้องมีการวางแผนกันก่อนเพื่อให้เก็บได้ครบ อย่างของแก๊งเจ้ตกลงกันว่าจะไม่เล่นเครื่องเล่นเพราะกลัวเสียว ฮิ้ววว จริงๆคือไม่อยากเสียเวลารอคิว ใครที่จะมา USJ ควรมาวันธรรมดานะจ๊ะ อันนี้เจ้เตือนด้วยความหวังดี

หลังที่ออกมาจากโซนแฮร์รี่ ก็เดินแบบงงๆ ผ่านส่วนที่เป็นโซน Amity Village (Jaws) ถ่ายรูปกับพี่เค้าหน่อย เลยมาก็มาถึงโซน Jurassic Park เดินเข้าไปตามเสียงกรี๊ด เดินถ่ายรูปทั่วๆไปอีกตามเคย ถ่ายเสร็จก็ไปต่อที่โซนอื่น

ผ่านมาเห็นมีพนักงานเข้าเชื้อเชิญเป็นภาษาญี่ปุ่น ฟังไม่ออกแต่ก็เดินตามเค้าไป (ใจง่ายไง) เข้าไปเป็นโซน Water World ถึงเวลาที่จะมีการแสดงโชว์พอดี (โอกาสแบบนี้รอทำไมเข้าไปดูสิ) ภายในเหมือนย่อส่วนฉากในภาพยนตร์ ออกมาเลยจริงๆ สมจริงมาก ประทับใจที่สุดก็ฉากจบที่มีเครื่องบินลำเบอเล่อเหาะลงมา เจ๊ช้อบชอบ ระหว่างที่เราชมการแสดง ก็หยิบเอาข้าวปั้นที่ซื้อมาจากข้างนอกมาทานด้วย ของในนี้ซื้อไม่ไหวแพง คนมีเงินแบบเราต้องแบกมากินจากข้างนอกจ้า ใช้เวลากันไปพอสมควร ก็เดินออกมาเพื่อไปโซนอื่น

ถ่ายรูปกันให้แบตหมดไปเลย มันมีมุมให้ถ่ายรูปมากจริงๆ เข้ามาสู่โซน New York สำหรับโซนนี้เค้าได้จำลองมหานครนิวยอร์คมาไว้ที่นี่เลย เจ้บอกเลยว่าบรรดานางแบบนายแบบไม่ควรพลาด มีมุมให้ได้ถ่ายรูปมากมาย รวมทั้งเจ้ารถคันเหลืองนี้ด้วย 

เพิ่มคำอธิบายภาพ

ถัดจากโซน New York ก็มาถึงโซน Hollywood ในโซนนี้ได้รวมโชว์และเครื่องเล่นเด็ดๆไว้มากมาย อาทิ สไปเดอร์แมนที่ขาชอบความเสียวเค้าการันตีว่าสนุกที่สุด ด้านหน้ามีร้านขายHot Dog อยู่ แหม๋เพื่อความสมจริงว่าได้อยู่ที่อเมริกาก็ต้องลองกันหน่อย ราคาไม่แพงอย่างที่คิด รสชาดก็....ไม่อร่อยอย่างที่คิดเช้นกัน -"- 

นอกจากนี้ก็มีโชว์จากภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เจ้มาทันดูอีก 2 อันคือ โชว์จากภาพยนตร์เรื่อง คนเหล็ก และ Backdraft บอกเลยว่าคุ้มค่ามากๆ แม้ช่วงแรกๆของการแสดงจะน่าเบื่อ แต่ปิดการแสดงอย่างประทับใจทั้ง 2 อัน โดยเฉพาะ Backdraft หนังที่เจ้ดูตั้งแต่สาวๆ เหมือนได้เข้าไปอยู่ในหนังจริงๆ ไฟจริง น้ำจริง ใครที่ไป USJ ไม่ควรพลาด

ระหว่างวันด้วยความที่ตอนที่เจ้ไปที่นี่กำลังเฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบ 15 ปี ก็ได้ดูขบวนพาเหรดที่สนุกสนานมาก แอบมีเต้นตาม เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเป็นเด็ก(จริงๆก็ยังไม่ได้แก่นะ) เป็นขบวนที่ยาวมาก จริงๆมีมากกว่ารูปที่เอามาให้ชมกันนะจ๊ะ 

ใน USJ จะมีรถเข็นที่ขายอาหารตลอดทาง ชนิดของอาหารจะขึ้นอยู่กับโซนนั้นๆ ใครใคร่ลองก็มาลองกันได้นะจ๊ะ บางร้านแถวอาจจะยาวมาก 

ตอนที่เจ๊ไปโซนมินเนี่ยนอยู่ในระหว่างกำลังรอเปิดเลยไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยวชม แต่เจ้ก็ยังอุตส่าห์หอบหิ้วเจ้าบอบตัวนี้กลับบ้าน (ซื้อตั้งแต่วันแรกลำบากแบกยันวันสุดท้าย) 

 เวลาในขณะนั้นประมาณ 17.30 เดินมาจนเหนื่อย ระหว่างทางจะมีซุ้มสำหรับเล่นเกมส์ (เหมือนปาโป่งบ้านเรา) เจ้ก็บอกกะเพื่อนว่าเอาม่ะลองสักเกมส์ ด้วยความสามารถที่ล้นหลาม เจ้ได้รางวัลที่2 มาเป็นตุ๊กตาเอลโม่ตัวใหญ่ ดีใจเว่อร์คร่ะ คุ้มแระกะเงินที่เสียไป (1เกมส์1,000 เยน)

 พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า แสงดาวกำลังขึ้นมาแทนที่ พวกเราก็ตกลงกันว่าเดินกันครบรอบแล้ว กลับไปที่โซนแฮร์รี่อีกรอบดีกว่า ไปดูว่าตอนกลางคืนสวยขนาดไหน อากาศก็เย็นลงเรื่อยๆ (มันหนาวมาก) พร้อมกับขาที่แทบไม่มีความรู้สึก โซนนี้กลางวันว่าสวยแล้ว กลางคืนสวยกว่า (อยู่กันให้คุ้ม)

หมดเวลาสนุกแล้วสินะ เสียงประกาศของUSJดังขึ้นว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะทำการปิดสวนสนุก เจ้และเดอะแก๊งจึงต้องค่อยๆเดินออก ซึมซับความทรงจำเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมหันไปโบกมือร่ำลาดินแดนแห่งความฝันกันก่อนจะเดินออกจากประตูสวนสนุกไปพร้อมกับความทรงจำที่เจ้จะไม่มีวันลืม ค่าเข้าที่คิดว่าแพงในตอนแรกมาถึงตอนนี้คิดว่าคุ้มมากกับเงินที่เสียไป เดินออกมาพร้อมหัวใจที่พองโต และรอยยิ้ม

เราเดินกันออกมาผ่านทาง Universal City Walk ตอนกลางคืนเต็มไปด้วยแสงสี นักท่องเที่ยวที่ออกจาก USJ ก็แวะหาอะไรทานกันอย่างคึกคัก เจ้เห็นความหนาแน่นของคนแล้วบอกเดอะแก๊งค์ว่า กลับไปหาอะไรกินแถวนัมบะดีกว่า เราเดินไปยังสถานีรถไฟ แล้วกดตั๋วนั่งย้อนกลับไปทางLoopเดิม เพื่อไปลงสถานี Namba

 ถึงที่สถานี NAMBA ยังไม่ดึกมาก เลยเดินไปร้านคีบตุ๊กตา มาถึงถิ่นแล้วนิต้องลองกันหน่อย แหมะไม่เสียความตั้งใจ ได้ติดไม้ติดมือมา 1 ตัว โปรดอย่าถามว่าสูญเสียไปเท่าไหร่5555

 อาหารเย็นวันนี้ ขอเสนอคำว่าร้านข้าวหน้าเนื้อ ที่ต้องซื้อโดยการกดตู้ เอาแล้วไงกะเหรี่ยง 3 คนเดินเข้าไปในร้านข้าวหน้าเนื้อ ที่มีคุณป้าแสนน่ารักโค้งต้อนรับ พวกเราเดินไปที่ตู้และดูภาพ ยืนศึกษาอยู่สักพักก็ลงมือกดแบบมั่วๆ แล้วก็จะได้คูปองออกมา (สงสารคนข้างหลังมากขอโทษที่ให้รอนานน้า เจ้ไม่เคย T T) จากนั้นก็เดินไปที่โต๊ะ เอาคูปองยื่นให้คุณป้า แล้วรออาหาร พอทานเสร็จก็เดินไปหาของกินเล่นกันที่ร้าน Lawson ตามเคยเพราะเป็นทางผ่านเข้าที่พัก ลืมบอกไปว่าระหว่างนี้เจ้หมดกับตู้กดน้ำไปหลายร้อยเยนแล้ว (หมดกันไปเท่าไหร่กับคำว่าแค่100เยน)

เมื่อถึงห้องพักเหมือนขาจะหลุดเหนื่อยกันมากกกกก ขอตัวไปอาบน้ำนอนดีกว่าพรุ่งนี้ยังต้องลุยกันต่ออีก

ขอบคุณที่ติดตามเจ๊นะจ๊ะ

อ่าน ญี่ปุ่น 11วัน8เมือง ตอนที่ 2 Universal Studio Japan ภาค1 http://salapaotravel.blogspot.com/2017/09/118-2-universal-studio-japan-1.html

Facebook : https://www.facebook.com/paopateaww/

ญี่ปุ่น 11วัน8เมือง ตอนที่ 2 Universal Studio Japan ภาค1 ユニバーサル・スタジオ・ジャパン

ญี่ปุ่น 11วัน8เมือง ตอนที่ 2 Universal Studio Japan ภาค1 
ユニバーサル・スタジオ・ジャパン



เริ่มทริปกันตอน 8 โมงเช้า กับกาแฟถ้วยแรก 

เป้าหมายของเจ้วันนี้คือ Universal Studio Japan หรือ USJ 

วันนี้เจ้ก็ยังคงติดใจกับการกดตู้ซื้อตั๋วอยู่ วิธีการเดินทางก็แสนง่ายดาย 

เราต้องนั่งรถจากสถานี NAMBA(NANKAI) ไปลงที่สถานี UNIVERSALCITY  

ระหว่างนั้นต้องต่อรถไฟ 2 รอบด้วยกัน แต่ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป 

เจ้เริ่มคล่องแระ

 เมื่อมาถึงสถานี UNIVERSALCITY  ก็เดินตามๆฝูงชนไป 

ไม่ต้องกลัวหลง จะมีป้ายติดไว้ตลอดทาง 

ออกจากสถานีรถไฟมาก็จะเข้ามาสู่บริเวณที่เรียกว่า 

Universal City Walk เช้าๆแบบนี้ร้านรวงเค้ายังไม่ค่อยจะเปิดกัน 

ต้องรอช่วงกลางคืนจะคึกคักมากมาย

  เดินผ่านไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับ ป้ายทางเข้า USJ

และแน่นอนเจ้จะไม่พลาดถ่ายรูปกับเจ้าลูกโลกสัญลักษณ์ของ Universal Studio 

ความยากของการได้ซึ่งรูปนี้มา มันมีหลายปัจจัย ทั้งต้องรอให้คำว่า Universal มันมาตรงข้างหน้าทั้งหมด (ใครเคยไปจะรู้เลย) บวกกับการสกัดดาวรุ่งพุ่งแรงนามว่านักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่นางจะสามารถแทรกเข้ามาเสนอหน้าบังเจ้ได้ตลอดเวลา 

ตั๋วเข้าUSJ มีแบบราย 1 วัน และแบบราย 2 วัน ซึ่งเราสามารถซื้อจากที่เมืองไทยได้เลย เจ็ซื้อมาราคา 2,400 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนตอนนั้น (ตอนแรกมีความรู้สึกว่าแพงมาก)

ตั๋วที่เราได้มาจะเป็นกระดาษ A4 ที่มี QR CODE ซึ่งสามารถใช้ QR CODE นั้นแสกนด์ผ่านเข้าไปด้านในได้เลย (ง๊ายง่าย)

USJ เปิดให้บริการในปี 2001 ปีนี้ที่เจ้ไปก็ครบ 15 ควบของที่นี้ แบ่งเป็น 9 โซน (ไปตอนต้นปี2017) ได้แก่ 1. New York 2. Hollywood 3. Jurassic Park 4. Sanfrancisco 5. Universal Wonderland 6. Lagoon 7. Water World 8. Amity Village (Jaws) 9. The wizarding World Harry Potter ( ซึ่งเป็นโซนที่เจ้อยากเข้าที่สุด ) www.usj.co.jp/e/harrypotter/ 

 เมื่อเข้ามาด้านในแล้วก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ ทางที่ดีควรไปขอแผนที่จากตรงที่เค้าขายตั๋วก่อน แต่เจ้เตรียมพร้อมไง เอามาเองจากเมืองไทย 

เจ้เข้ามาในส่วนของโซนแฮรี่ก่อนเลย แค่เข้าก็มีความรู้สึกว่าเราเป็นเฮอไมโอนี่แระ (ลั่นม่ะ)  ทุกโซนของที่นี่จะมีเพลงเปิดคลอตลอด แน่นอนโซนแฮรี่ก็ต้องมีเพลงจากในภาพยนตร์ 2 ข้างทางเดินจะเป็นต้นสนสูง ดูน่าค้นหา 

อ้อ เจ้ขอบอกไว้ก่อนว่าที่นี่จะถ่ายรูปคู่อะไรก็อย่าบุ่มบ่ามเดินไปถ่ายเลยนะจ๊ะ ดูด้วยว่าเค้าต่อคิวกันอยู่ไหม (อย่าทำตัวไม่น่ารักไม่ดีไม่เอา) 

และแล้วก็มาถึงทางเข้าเมืองเวทมนตร์

ต้อนรับเราด้วยรถไฟสีแดง เหมือนได้นั่งมากับแฮร์รี่พอตเตอร์ด้วยเลย (มโนได้อีก)

ถัดเข้ามาจากตัวรถไฟสีแดงจะพบกับซุ้มขาย Butter beer มาถึงแล้วก็ต้องชิมสิจ๊ะ รออะไร 

แก้วมี 3 แบบให้เลือก เจ๊เลือกแบบที่เป็นแก้วมัคพลาสติก เพราะอยากได้กลับบ้าน แถมเลือกได้ด้วยว่าจะเอาแบบร้อน หรือแบบเย็น เจ้บอกเลยให้สั่งแบบเย็น เน้นว่าแบบเย็นแล้วต้องรีบกิน อย่าให้มันหายเย็น เพราะมันจะเลี่ยนจนต้องร้องขอชีวิต เจ้เททิ้งมาแล้วจ้า หึหึหึ  

เมื่อจัดการกะเจ้า Butter beer เสดแล้ว ก็มุ่งหน้าสู่โรงเรียนเวทมนตร์ฮอควอท กันต่อ ระหว่างทางที่เดินจะเป็นร้านขายของที่ระลึก แบ่งเป็นร้านต่างๆ เหมือนในภาพยนต์ เช่น ร้านขายเครื่องแต่งกาย ร้านขายไม้เวทมนตร์   ร้านขายขนมเวทมนตร์ แต่เสียใจไม่ได้กินเงินเจ้หรอกคร่ะ ( มันแพงวุ้ย ) 

-- ร้านขายไม้กายสิทธิ์ --

-- มาหาไม้ประจำตัวกันดีกว่า --

เมื่อมาสุดทาง ก็จะพบกับโรงเรียนเวทมนตร์ฮอควอท ใครดูในภาพยนตร์ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนมากกกกก ข้างๆเป็นบ่อน้ำสีฟ้า เป็นสีฟ้าจริงๆ ด้านขวามือเป็นเครื่องเล่น ซึ่งแถวยาวสุด ในปราสาทเองก็มีเครื่องเล่นอีกแถวยาวกว่า ถ้าใครก็ตามที่จะมาเล่นเครื่องเล่นให้รีบมาแต่เช้า มารอ USJ เปิดเลย หรือให้ซื้อบัตรเบ่งมาจากไทย เจ้เน้นถ่ายรูปคร่ะ เลยไม่ได้want จะเข้าเลยไม่ได้ซื้อมา

อยู่จนมีความรู้สึกว่าจะเสกหนังควายเข้าท้องเพื่อนได้แล้ว 

ก็ถึงเวลาต้องไปต่อ……. 

http://salapaotravel.blogspot.com/2017/09/118-2-universal-studio-japan.html